แชร์เคล็ดลับ! เทคนิคการสร้าง Content ให้ธุรกิจขายได้

แชร์เคล็ดลับ! เทคนิคการสร้าง Content ให้ธุรกิจขายได้

28 มิ.ย. 2565   ผู้เข้าชม 132

การคิดคอนเทนต์สำหรับสินค้าหรือบริการให้เว็บไซต์ธุรกิจประสบความสำเร็จ โดยไม่เสียเงินกับการโฆษณา สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยใช้เครื่องมือ SEO หรือ Search Engine Optimization เข้ามาช่วย ในการคิดคอนเทนต์ ให้เว็บไซต์ธุรกิจออนไลน์ติดอันดับ 1 บน Google 

หลายคนอาจเคยได้ยินว่า Content is King แต่การจะทำให้คอนเทนต์ของเรายืนหนึ่งได้นั้น จำเป็นจะต้องเรียนรู้เทคนิคและศึกษาเครื่องมือที่จะทำให้คอนเทนต์ดูน่าสนใจ รวมถึงสามารถดึงดูดผู้ใช้งานหรือลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เข้ามาในเว็บไซต์ธุรกิจออนไลน์ของเราให้ได้ก่อน 

วันนี้ Webfaster.online จะมาแชร์เคล็ดลับและบอกเทคนิคการคิดคอนเทนต์อย่างไร? ให้เว็บไซต์ธุรกิจออนไลน์ประสบความสำเร็จด้วยการสร้าง SEO Content

 

คิดคอนเทนต์ปัง ๆ ให้เว็บไซต์ ด้วยเทรนด์ จาก Google Trends

ค้นหาคำจาก Google Trends

เครื่องมือแรกในการคิดคอนเทนต์ SEO สำหรับเว็บไซต์ธุรกิจออนไลน์ให้สำเร็จก็คือ Google Trends ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับค้นหาความนิยมของ คีย์เวิร์ด (Keywords) ว่าผู้ใช้งานนิยมค้นหาคำว่าอะไรผ่านการค้นหาบน Google Search ซึ่งเครื่องมือนี้มีฟังก์ชันสำหรับการค้นหาคีย์เวิร์ดแบบที่สามารถระบุพื้นที่ ระยะเวลา หมวดหมู่สิ่งของ รวมไปถึงความนิยมในการค้นหาในแต่ละแพลตฟอร์มได้อีกด้วย แถมยังมีฟังก์ชัน Related Keywords หรือคำค้นหาใกล้เคียงไว้สำหรับหาไอเดียใหม่ ๆ ในการคิดคอนเทนต์สำหรับทำเว็บไซต์ธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ดีอีกด้วย ถือได้ว่า Google Trends เป็นเครื่องมือแรกของการทำ SEO ที่เหล่านักคิดคอนเทนต์ไม่ควรพลาดเลยก็ว่าได้ 

 

การ Research Keywords ให้เหมาะสมกับเว็บไซต์ธุรกิจออนไลน์

คีย์เวิร์ด ถือได้ว่าเป็นหัวใจหลักในการทำ SEO ให้แก่เว็บไซต์ธุรกิจออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ เนื่องจากเป็นการนำคำที่ผู้ใช้งานนิยมค้นหาใน Google Search มาคิดเพื่อทำคอนเทนต์และเนื้อหาภายในเว็บไซต์ ซึ่งการเลือกคีย์เวิร์ดที่ดี ไม่จำเป็นต้องมีเพียงคีย์เวิร์ดเดียว แต่สามารถเลือกใช้คีย์เวิร์ดได้อย่างหลากหลาย แต่ต้องคำนึงเสมอว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการในเว็บไซต์ธุรกิจของคุณเท่านั้นจึงจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด  ยิ่งภายในเว็บไซต์มีเนื้อหาและคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผู้ใช้งานค้นหามากเท่าไร เว็บไซต์ธุรกิจออนไลน์ของคุณก็มีสิทธิที่จะได้ติดหน้า 1 บน Google ได้มากเท่านั้น

 

เลือกใช้ Keywords ทั้งแบบ Short Tail Keywords และ Long Tail Keywords

จากการศึกษาพฤติกรรมการค้นหาของมนุษย์ มักจะมีการค้นหาโดยการเลือกใช้แบบ Short-Tail Keywords ก่อนทุกครั้ง หากผู้ใช้งานค้นหาด้วยคำสั้น ๆ แล้วยังไม่พบเจอกับสิ่งที่ตนเองต้องการ มักจะใช้การค้นหาแบบ Long- Tail Keywords ต่อในทันที เพื่อค้นหาสิ่งที่ตนเองกำลังสนใจ ซึ่งการค้นหาแบบ Long-Tail Keyword ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเพิ่มโอกาสในค้นหาข้อมูลให้เจอเร็วมากยิ่งขึ้น

 

มาดูกันดีกว่าว่า Short Tail Keywords กับ Long Tail Keywords แตกต่างกันอย่างไร ?

Sort tail Long tail Keywordsข้อมูลอ้างอิง : WrodStream

  • Short Tail Keywords

คือ การเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่ประกอบไปด้วยสั้น ๆ  เช่น เว็บไซต์สำเร็จรูป รับทำเว็บไซต์ การตลาด SEO เป็นต้น

  • Long Tail Keywords

คือ การเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่มีการเจาะจงสำหรับการค้นหาสิ่งที่ผู้ใช้งานสนใจ เช่น รับทำเว็บไซต์สำเร็จรูป คุณภาพ เชียงใหม่ หรือ รับทำการตลาดออนไลน์ SEO เชียงใหม่ เป็นต้น

จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า Short Tail Keywords ประกอบไปด้วยคำสั้น ๆ สามารถทำการค้นหาได้เป็นวงกว้าง แต่ Long Tail Keywords คือ การประกอบคำเป็นประโยค หรือ วลี เป็นการระบุความต้องการในการค้นหาที่ชัดเจนขึ้น จึงสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้ง่ายกว่า 

ดังนั้น การคิดคอนเทนต์ SEO ให้เว็บไซต์ธุรกิจออนไลน์ประสบความสำเร็จจะต้องให้ความสำคัญกับการนำคำค้นหาทั้งแบบ Short Tail Keywords และ Long Tail Keywords มาใช้ร่วมกันจึงจะดีที่สุด

Content ไม่ควร Hard Sell จนเกินไป 

แน่นอนว่าการคิดคอนเทนต์และเขียนบทความ SEO ที่ดี จะต้องไม่ทำการเสนอขายสินค้าหรือบริการมากจนเกินไป  เพราะการทำ SEO ที่ดีจะต้องไม่ทำให้ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายรู้สึกถูกยัดเยียดการขายอยู่ตลอดเวลาในการอ่านบทความ โดยไม่ได้ข้อมูลหรือสิ่งที่ต้องการจากหัวข้อนั้นเลย 

แต่จะดีกว่าไหม?  หากเปลี่ยนวิธีคิดคอนเทนต์ใหม่ โดยใช้วิธี Soft Sell เสนอขายสินค้าหรือบริการอย่างมีคุณค่า

ด้วยการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา ซึ่งวิธีการนำเสนอคอนเทนต์แนวนี้ จะนำไปสู่การเลือกใช้สินค้าหรือบริการของเราได้ในที่สุดไม่ช้าก็เร็ว เพราะผู้ใช้งานได้ทราบถึงรายละเอียด วิธีการใช้งาน รวมไปถึงความพิเศษของสินค้าหรือบริการที่ผู้ผลิตคอนเทนต์ต้องการจะสื่อสาร

 

สร้าง Traffic ให้แก่เว็บไซต์ธุรกิจไม่รู้ตัว ด้วย Evergreen Content 

Evergreen Content การเขียนคอนเทนต์

คอนเทนต์ส่วนใหญ่บน Google ที่ผู้ใช้งานยอมเสียเวลาให้แก่เว็บไซต์ธุรกิจออนไลน์ของเราก็คือ Evergreen Content ซึ่งเป็นคอนเทนต์เชิงให้ข้อมูลหรือความรู้ ที่มีความน่าสนใจและสามารถดึงดูดให้ผู้อ่านใช้เวลาบนเว็บไซต์ของเราให้นานมากยิ่งขึ้น ลดการเกิด Bounce Rate ซึ่งถือได้ว่าเป็นคอนเทนต์ที่มีคุณภาพเลยทีเดียว เพราะเป็นคอนเทนต์ที่ผลิตขึ้นมาจากการสำรวจเทรนด์ความสนใจและความต้องการของคนในช่วงนั้น ๆ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ตรงตามการค้นหา ทำให้คอนเทนต์ชนิดนี้มีผู้สนใจและค้นหาอยู่เรื่อย ๆ ตัวอย่างเช่น บทความเกี่ยวกับความงาม บทความเกี่ยวกับสุขภาพ บทความเกี่ยวกับ How to ต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งวิธีนี้นับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถเพิ่ม Traffic หรือจำนวนผู้เข้าชมให้แก่เว็บไซต์ธุรกิจของคุณแบบช้าแต่ชัวร์ และยั่งยืน!


เมื่อทราบเทคนิคการคิดคอนเทนต์ SEO สำหรับเว็บไซต์ธุรกิจออนไลน์ให้ติดหน้า 1 บน Google แล้วอย่าลืมนำเทคนิคดี ๆ นี้ไปปรับใช้บนเว็บไซต์ของคุณกันนะคะ 

สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังมองหาบริษัทรับทำเว็บไซต์สำเร็จรูป โครงสร้างรองรับ SEO 100%  พร้อมทั้งมีบริการออกแบบเนื้อหาภายในเว็บไซต์สำเร็จรูปโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ที่จะช่วยให้เว็บไซต์สำเร็จรูปของคุณติดหน้า 1 บน Google อย่าลืมเลือกใช้บริการเว็บไซต์สำเร็จรูปจาก WebFaster.online กันนะคะ

LINE OA WebFaster


สาระน่ารู้ที่เกี่ยวข้อง

รู้จักกับ SEO ตัวช่วยที่จะทำให้เว็บไซต์ของธุรกิจคุณติดอันดับใน Google
19 เม.ย. 2564

รู้จักกับ SEO ตัวช่วยที่จะทำให้เว็บไซต์ของธุรกิจคุณติดอันดับใน Google

เทคนิคการทำ SEO
6 ข้อดี สร้าง Website ให้ลูกค้าหาเจอบน Google แบบไม่เสียเงิน!
09 ม.ค. 2566

6 ข้อดี สร้าง Website ให้ลูกค้าหาเจอบน Google แบบไม่เสียเงิน!

เทคนิคการทำ SEO
SEO สำหรับวิดีโอ เคล็ดลับทำให้วิดีโอของคุณกลายเป็นไวรัล
08 มี.ค. 2564

SEO สำหรับวิดีโอ เคล็ดลับทำให้วิดีโอของคุณกลายเป็นไวรัล

เทคนิคการทำ SEO