เปิดหมดไม่กั๊ก! เคล็ดลับหาคีย์เวิร์ด ทำ SEO ง่ายๆ ด้วยตนเอง

เปิดหมดไม่กั๊ก! เคล็ดลับหาคีย์เวิร์ด ทำ SEO ง่ายๆ ด้วยตนเอง

27 ก.ย. 2565   ผู้เข้าชม 83

การหาคีย์เวิร์ดสำหรับทำ SEO ให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายนั้น ถือได้ว่าเป็นเรื่องท้าทายอย่างมากในปัจจุบัน เพราะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแต่ละคนก็มักจะมีคีย์เวิร์ดหรือคำในใจสำหรับการค้นหาที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ต้องโฟกัสที่ความสำคัญของ การกำหนดคำค้นหา (Keyword) เป็นอย่างมาก ทั้งแบบ Short Tail Keyword และ Long Tail Keyword เพื่อให้มั่นใจว่า คำค้นหาที่เรากำหนดจะสอดคล้องและใกล้เคียงกับการค้นหาของกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด 

วันนี้ Webfaster.online จะพาคุณมาหาคีย์เวิร์ดด้วยเครื่องมือจาก Google เพียง 2 ตัวเท่านั้น ที่จะทำให้การทำ SEO ของคุณกลายเป็นเรื่องง่าย ๆ แถมฟรีอีกต่างหาก จะมีอะไรบ้างมาดูพร้อมกัน

 

เปิดโผเทรนด์ความนิยมคีย์เวิร์ดด้วย Google Trend

เครื่องมือ Google Trend

เครื่องมือแรกสำหรับนักการตลาดออนไลน์ที่ต้องการจะทำ SEO ไม่ควรพลาด! เพราะ Google Trend เป็นเครื่องมือสำหรับวิเคราะห์เทรนด์การค้นหาบน Search Engine ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์การค้นหาคีย์เวิร์ดผ่านเว็บไซต์ (Web Search) การค้นหารูปภาพ (Image Search) การค้นหาข่าวสาร (News Search) การค้นหาบนยูทูป (YouTube Search) รวมไปถึงการค้นหาบน Google Shopping ล้วนแล้วแต่เป็นพื้นที่การใช้งานสำหรับค้นหาข้อมูลและความรู้เพื่อประกอบการตัดสินใจในการกำหนดคำค้นหาทั้งสิ้น

ภายในเครื่องมือ Google Trend จะมีฟังก์ชันการค้นหาเทรนด์ของคีย์เวิร์ดได้อย่างหลากหลาย เพราะสามารถระบุพื้นที่ ช่วงเวลา ประเภทความสนใจต่าง ๆ รวมไปถึงแพลตฟอร์มสำหรับการค้นหา และยังสามารถเปรียบเทียบความนิยมการค้นหาของคีย์เวิร์ดได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือสำหรับหาคำค้นหรือคีย์เวิร์ดที่ใช้งานได้ง่าย และสะดวกต่อผู้ใช้งาน ที่สำคัญ “ไม่เสียค่าใช้บริการ” อีกด้วย

 

Google Planner ตัวช่วยสำหรับการทำ SEO

Google Planner

อีกหนึ่งเครื่องมือการหาคีย์เวิร์ดที่ได้รับความนิยมในหมู่นักทำการตลาดออนไลน์อีกอัน คงหนีไม่พ้น Google Planner ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะช่วยหาคีย์เวิร์ดที่น่าสนใจพร้อมทั้งบอก ปริมาณ Search Volume ที่จะทำให้การทำ SEO ของคุณง่ายขึ้นไปอีกระดับ นอกจากนั้น Google Planner เองยังมีฟีเจอร์ที่จะช่วยวิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่มีความใกล้เคียงกับคีย์เวิร์ดหลักที่คุณกำลังค้นหา เพื่อนำไปเป็นไอเดียต่อยอดในการคิดคอนเทนต์สำหรับธุรกิจได้อีกด้วย โดยสามารถใช้งานเพื่อหาคีย์เวิร์ดได้ดังนี้

 

ค้นหาคีย์เวิร์ดง่าย ๆ ด้วย Google Planner ตามวิธีดังนี้

1. เข้าไปที่เว็บไซต์ https://ads.google.com/home/tools/keyword-planner/ พร้อมทั้ง สร้างบัญชีผู้ใช้ สำหรับการใช้งานในธุรกิจของคุณ

 

2. คลิกที่ “ไปที่เครื่องมือวางแผนคีย์เวิร์ด (Keyword Planner)”

 

3. ภายใน Google Planner จะมีด้วยกัน 2 ฟีเจอร์ ได้แก่ Discover New Keywords และ Search Volume and Forecasts

 

Discover New Keywords

เครื่องมือสำคัญในการค้นหา คีย์เวิร์ด สำหรับทำ SEO สามารถค้นหาคีย์เวิร์ดได้ด้วยการพิมพ์ คำหรือวลี รวมไปถึงเว็บไซต์ ได้ตามที่ต้องการ เพื่อหาปริมาณการค้นหาคีย์เวิร์ด Search Engine บน Google โดยฟีเจอร์นี้สามารถค้นหาคีย์เวิร์ดสูงสุดต่อครั้งได้ถึง 10 คำ และยังสามารถเปรียบเทียบปริมาณการค้นหาของคีย์เวิร์ดแต่ละตัวได้อีกด้วย 

 

Search Volume and Forecasts

ฟีเจอร์สำหรับค้นหาปริมาณ Search Volume และปริมาณ Impression ของคีย์เวิร์ดที่ผ่านมาภายใน 1 เดือน เพื่อให้คุณสามารถวิเคราะห์คีย์เวิร์ดสำหรับทำ SEO ได้แม่นยำขึ้น 

แต่ก่อนจะใช้งานการค้นหา คีย์เวิร์ด มาทำความรู้จักหัวข้อแสดงผลบนคอลัมน์กันก่อน เพื่อใช้งาน Google Planner ให้ได้ง่ายยิ่งขึ้น มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

  • Keyword (by relevance)

คำหรือวลี ที่คุณสนใจสำหรับทำ SEO รวมไปถึงคำที่เกี่ยวข้อง

  • Average monthly searches

ปริมาณค่าเฉลี่ยการค้นหาคีย์เวิร์ดใน Search Engine บน Google ภายใน 1 เดือนที่ผ่านมา โดยใช้หน่วยแสดงผลเป็นตัวย่อปริมาณตัวเลข ดังนี้

1K = 1000

10K = 10,000

100K = 100,000

1M = 1,000,000

 

  • Three month Change

การเปลี่ยนแปลงการค้นหาใน Search Engine บน Google ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา เพื่อแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มหรือเทรนด์ของคีย์เวิร์ด ว่ายังมียอดการค้นหาที่เปลี่ยนแปลงจากเดิมอย่างไร 

  • YoY Change (Year on year Change)

เปรียบเทียบปริมาณการค้นหาคีย์เวิร์ดภายในเดือนปัจจุบันและเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ว่ามีความเปลี่ยนแปลงจากเดิมหรือไม่

  • Ad Impression Share

ส่วนแบ่งการแสดงโฆษณาระหว่างคุณและคู่แข่ง

  • Competition

คอลัมน์ที่แสดงให้เห็นถึงอัตราการแข่งขันของคีย์เวิร์ดว่า อยู่ในปริมาณต่ำ ปานกลาง หรือสูง เพื่อใช้พิจารณาในการเลือกใช้คำ

  • Top of page bid (low range)

ราคาประมูลเฉลี่ยของหน้าแสดงผลอันดับต้น ๆ บน Google ที่ถูกที่สุด

  • Top of page bid (High range)

ราคาประมูลเฉลี่ยของหน้าแสดงผลอันดับต้น ๆ บน Google ที่สูงที่สุด

 

4. พิมพ์ คีย์เวิร์ด ที่สนใจลงไปในช่อง “Enter products or services closely related to your business” เพื่อทำการค้นหา จากนั้นกด Get Results

 

5. เปรียบเทียบปริมาณการค้นหาคีย์เวิร์ดของคุณได้ตามที่ต้องการ เพื่อนำไปทำคอนเทนต์ SEO บนเว็บไซต์ธุรกิจ หรือบนแพลตฟอร์มออนไลน์ของคุณ

 

ซึ่งทั้ง 2 ฟีเจอร์ที่กล่าวมาข้างต้นจะช่วยทำให้การหาคีย์เวิร์ดทั้งแบบ Short tail Keyword และ Long tail Keyword ของคุณกลายเป็นเรื่องง่าย แถมยังช่วยให้การวิเคราะห์คีย์เวิร์ดสำหรับทำ SEO มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ทำให้เว็บไซต์ธุรกิจออนไลน์ของคุณมีโอกาสในการติดอันดับหน้าแรกของ Google ได้อีกด้วย

Add Line WebFaster

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 2 เครื่องมือการค้นหาคีย์เวิร์ด สำหรับทำ SEO ที่ WebFaster.online นำมาฝากกันในวันนี้ ที่ให้คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทั้ง Google Trend และ Google Planner ที่คุณเองสามารถหาคีย์เวิร์ดเองง่าย ๆ ได้ที่บ้าน แถมยังเป็นไอเดียสำหรับคิดคอนเทนต์ที่น่าสนใจและเกี่ยวข้องกับธุรกิจออนไลน์ของคุณได้อีกด้วย 

สำหรับผู้ประกอบการท่านไหน ที่กำลังมองหาผู้ให้บริการทำเว็บไซต์สำเร็จรูปเจ้าไหนดี Webfaster.online เราพร้อมให้บริการ ด้วยทีมงานโปรแกรมเมอร์และนักพัฒนาเว็บไซต์มืออาชีพที่มีประสบการณ์ยาวนาน ที่จะช่วยเนรมิตเว็บไซต์ของคุณให้จัดแสดงอยู่อันดับหน้าหนึ่งใน Google ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว พร้อมด้วยโครงสร้างเว็บไซต์ที่รองรับ SEO 100% แถมยังตอบโจทย์ธุรกิจตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่อีกด้วย


สาระน่ารู้ที่เกี่ยวข้อง

SEO สำหรับวิดีโอ ต้องเริ่มจากตรงไหน ถึงจะติดหน้าแรก Google
02 มี.ค. 2564

SEO สำหรับวิดีโอ ต้องเริ่มจากตรงไหน ถึงจะติดหน้าแรก Google

เทคนิคการทำ SEO
SEO คืออะไร สำคัญยังไงกับการตลาดออนไลน์ยุค 5G
30 พ.ค. 2564

SEO คืออะไร สำคัญยังไงกับการตลาดออนไลน์ยุค 5G

เทคนิคการทำ SEO