ก่อนที่จะเริ่มเขียนบทความ SEO บนเว็บไซต์ เราต้องรู้ก่อนว่า SEO คืออะไร เราจะตอบตรงนี้ให้เข้าใจได้ง่ายที่สุด SEO หรือ Search Engine Optimization คือกระบวนการที่จะทำให้เว็บไซต์ของธุรกิจคุณติดหน้าแรกในการค้นหาบน Google
หากจะอธิบายเพิ่มเติมตามหลักการ สามารถสรุปได้ว่าการทำ SEO คือวิธีทางการตลาดดิจิทัล ที่จะทำให้เว็บไซต์ธุรกิจของคุณขึ้นเป็นหน้าแรกของเว็บ Search Engine ยักษ์ใหญ่อย่างเช่น Google โดยใช้กระบวนการการปรับแต่งโครงสร้างเว็บไซต์ ซึ่งมันจะทำให้ธุรกิจของคุณสามารถขึ้นหน้าแรกของ Google ได้หากใช้คำ Keyword ต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ในการค้นหา แบบไม่ต้องซื้อโฆษณา (Google Ads)
แต่ขั้นตอนเหล่านี้ต้องอาศัยองค์ประกอบหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น การเขียนบทความบนเว็บไซต์ที่สำคัญต้องเขียนออกมาในลักษณะของบทความยาว ๆ ซึ่งคุณอาจจะใช้ Resorce ที่มีอยู่หรือจะจ้างผู้ที่เชี่ยวชาญทางด้าน SEO Web Marketing ก็สามารถทำได้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการทำ SEO บนเว็บไซต์ของคุณ
ถึงแม้ว่าตัวผู้ประกอบการหรือนักการตลาดจะมีไอเดียการเขียนบทความบนเว็บไซต์ที่น่าสนใจ แต่หากถ่ายทอดออกมาไม่ดี บทความเหล่านั้นก็จะไม่ได้รับความสนใจ เพราะการเขียนบทความ SEO ไม่ใช่แค่การเขียนบทความยาวๆ แต่ต้องเขียนออกมาให้ดูน่าสนใจ และรู้จักการใช้คำ Keyword ให้สอดคล้องไปกับบทความนั้น ๆ
ซึ่งจำเป็นต้องใช้คนที่มีทักษะและประสบการณ์ในการทำ SEO Web Marketing เพราะเขาเหล่านี้จะสามารถนำเว็บไซต์ของคุณกระโดดขึ้นไปอยู่หน้าแรก ๆ ของการค้นหาได้ และยังช่วยย่นระยะเวลาในการไต่อันดับจนเว็บไซต์ของคุณอยู่หน้าแรก Google ได้ แค่ลองจินตนาการเล่น ๆ ว่าวันหนึ่งเว็บไซต์ของตัวเองได้ขึ้นไปอยู่ในหน้าแรกของ Google แล้วมีผู้เข้าชมบนเว็บไซต์ของคุณเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด
แค่แอบคิดก็หยุดยิ้มไม่ได้แล้ว ที่จะได้เห็นเว็บไซต์ของตนเองสามารถขยายฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้นได้ คราวนี้ได้เห็นถึงความคุ้มค่าของการมีนักเขียนดี ๆ ซักคนแล้วใช่ไหมคะ?
บทความนี้ WebFaster.online จะมาแนะนำ 7 เทคนิคสำหรับการทำให้บทความในเว็บไซต์ของเรามีผู้สนใจและเข้าชมให้เยอะกว่าที่เคยมี เทคนิคสำคัญจะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย
อย่างแรกเราต้องรู้ก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายในการเขียนครั้งนี้เป็นใคร เพราะเมื่อเราสามารถตอบคำถามข้อนี้ได้อย่างชัดเจนแล้ว การที่เราจะเขียนบทความบนเว็บไซต์ให้น่าสนใจก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ถึงแม้ว่าจะเป็นบทความยาว ๆ ก็ตาม การเข้าใจถึงกลุ่มเป้าหมายจะช่วยให้บทความบน SEO Web Marketing ของคุณดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
คีย์เวิร์ดเป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนจะต้องจำให้ได้ขึ้นใจ เพราะตัวคีย์เวิร์ดนี่แหละที่จะช่วยเชื่อมโยง ระหว่างคำที่คนนิยมค้นหากับบทความบนเว็บไซต์ของเรา ข้อควรระวังคือคำค้นหาบางคำอาจจะดูเหมือนกัน แต่จำนวนคนกดค้นหากลับไม่เท่ากัน เช่น Keyword กับ คีย์เวิร์ด ความหมายเดียวกันแต่มีผลลัพธ์ในการค้นหาที่ไม่เท่ากัน ตรงนี้อาจจะทำให้ผู้เขียนบทความ SEO สับสนได้
การเขียนบทความยาว ๆ จะช่วยให้ Google สามารถตรวจสอบข้อมูลได้มากพอ ว่าเนื้อหาเหล่านั้นเกี่ยวกับอะไร และมั่นใจในเว็บไซต์ SEO ของเรา ว่าเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดที่ใส่ไปในบทความจริง ๆ นอกจากนี้บทความยาว ๆ ยังมีเนื้อหาที่ครอบคลุมความต้องการของผู้อ่านได้ดีอีกด้วย และที่สำคัญบทความยาว ๆ เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะถูกอ้างอิงลิงก์ (Backlink) หรือส่งต่อ ๆ กัน เพื่อนำไปเผยแพร่ในช่องทางต่าง ๆ มากขึ้น
ด้วยพฤติกรรมการอ่านของคนในยุคนี้ที่ต้องทำอะไรแข่งกับเวลา และชอบทำอะไร
หลาย ๆ อย่างพร้อมกัน พวกเขามักจะสแกนเนื้อหาแบบคร่าว ๆ ว่าเนื้อหาเหล่านั้นมีเรื่องที่พวกเขาสนใจหรือไม่ หากเนื้อหาในย่อหน้าแรกมันดูน่าเบื่อหรืออ่านแล้วไม่ได้ใจความ ผู้อ่านก็จะไม่ได้รู้สึกดึงดูดและออกจากหน้าเว็บไซต์ของเราไปในที่สุด แน่นอนว่าหากเราต้องการให้บทความของเรานั้นโดดเด่น ย่อหน้าแรก ๆ ควรกระชับ สามารถดึงดูดใจให้ผู้อ่านอยากติดตามต่อไปได้ อาจจะเพิ่มรูปภาพหรือกราฟิกต่าง ๆ ให้ผู้อ่านได้นึกภาพตามและสามารถอ่านต่อไปได้จนจบ
ผู้เขียนควรนำคำคีย์เวิร์ดไปใส่ในจุดต่าง ๆ ของคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็น Headline, Meta Description หรือใส่ไว้ในลิงค์ URL เพื่อ Google จะสามารถรับรู้ได้อย่างแน่ชัดว่าบทความนี้เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดที่เราใส่ไป เมื่อถูกค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดเหล่านั้นแนวโน้มที่จะติดอันดับบน Google ได้ก็จะมีสูง
ยิ่งผู้เข้าชมเยอะเท่าไหร่ Google ก็จะสามารถรับรู้ได้เร็วขึ้นว่าผู้อ่านเหล่านั้นชอบการเขียนบทความบนเว็บไซต์ของเรา และจะส่งผลให้การจัดอันดับบทความของเราขึ้นไปอยู่อันดับต้นๆของ Search Engine เพราะฉะนั้นการแชร์บทความ SEO ที่เราเขียนไปยังช่องทางโซเชี่ยลมีเดียต่างๆไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twittwer, LinkedIn หรือ Instagram ก็จะสามารถเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ของเราได้อย่างรวดเร็ว
การวิเคราะห์ผลลัพธ์แบบนี้จะช่วยให้เราสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกจุด เพื่อพัฒนาการเขียนบทความบนเว็บไซต์ของเราให้เอื้อต่อ SEO มากขึ้นซึ่งเราสามารถเข้าไปตรวจสอบผลลัพธ์ได้ที่ Google Analytics ซึ่ง Google Analytics นี้เราจะสามารถบอกภาพรวมของผลตอบรับที่มีต่อบทความของเราได้อย่างแม่นยำและดีเยี่ยม
ทั้งหมดนี้คือเคล็ด(ไม่)ลับในการเขียนบทความบนเว็บไซต์ SEO ที่เราอยากจะมาแชร์ให้กับผู้อ่านทุกท่าน เพราะในเรื่องของธุรกิจใครเริ่มได้เร็วกว่า คนนั้นจะไปได้ไกลก่อน หากใครที่มีคำถามเพิ่มเติมหรือสนใจในการทำ SEO Web Marketing หรือต้องการเว็บไซต์ที่ออกแบบมาเพื่อการทำ SEO โดยเฉพาะ
สามารถติดต่อมาได้เลยที่ WebFaster.online เราพร้อมที่จะให้คำปรึกษาและดูแลธุรกิจของคุณให้สามารถก้าวขึ้นไปติดอันดับคำค้นหาบน Google โดยไม่ต้องรอนาน